ยุคนี้ต้องไลฟ์สดเท่านั้น! มาเจาะเทคนิคการทำไลฟ์ให้เฉิดฉายกว่าใคร กับคุณหาว ต่อวงศ์ ซาลวาลา เจ้าของเพจ 2HOW.com ในหัวข้อ “Home Studio Live Streaming” ที่จะพาคุณไปพบกับอุปกรณ์หัวใจสำคัญในการไลฟ์
หลักการง่าย ๆ ของ Home Studio ก็คือ มีภาพวิดีโอที่มาจากกล้อง, มีเสียงที่มาจากไมโครโฟน , มีคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลาง เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ โดยนึกเสมอว่าของทุกอย่างจะต้องง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่สร้างภาระ และจะต้องมีความเสถียร แล้วหลักการนี้จะมีจะมีอุปกรณ์และขั้นตอนอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
อินเทอร์เน็ตต้องดี ไลฟ์ต้องเสถียร
อันดับแรกที่เราต้องให้ความสำคัญเลยคือความเสถียรของระบบ “Internet” ต่อให้เราใช้อุปกรณ์ดีแค่ไหน แต่สัญญาณที่ส่งออกไปไม่ดี ทำให้ไลฟ์กระตุก ขาด ๆ หาย ๆ ก็ทำให้ Live ครั้งนี้ของเราไม่น่าดูอีกต่อไป และยิ่งหากบ้านใครที่มีคนอาศัยอยู่เยอะ มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเยอะก็จะทำให้เกิดการแย่งสัญญาณกัน สิ่งที่ต้องทำการเปลี่ยนเมื่อเราทำการติดตั้งอินเทอร์เน็ตแล้วนั่นก็คือ Router Wifi ที่เราได้รับมาจากเครือข่ายต้นทาง ให้เราหา Router ที่กระจายสัญญาณ Wifi ดี ๆ สักเครื่อง จากนั้นให้ต่อสาย Lan จาก Router เดิมเข้ากับ Router ตัวใหม่ และปิดสัญญาณ Wi-Fi จาก Router เดิม ให้ใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตจากตัวใหม่แทน เท่านี้ก็จะทำให้เราได้สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เสถียรมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเอ๋? แล้วเราจะเลือกใช้อินเทอร์เน็ตเครือข่ายไหนดีหล่ะ ต้องบอกเลยบอกอันนี้ขึ้นอยู่กับเสาสัญญาณของแต่ละพื้นที่ แนะนำให้ตรวจสอบสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากเสาใกล้บ้านเราก่อนว่าอินเทอร์เน็ตเครือข่ายไหนที่ให้ความเร็วดีที่สุด และ เสถียรที่สุด เพื่อ Live ที่ดี ไม่มีภาพกระตุก!
เลือกอุปกรณ์ที่ใช่ อย่าเห็นแก่ของถูก!
อุปกรณ์ที่ใช้ในการไลฟ์ถือเป็นสิ่งสำคัญ อย่างตัว HDMI ที่เป็นอุปกรณ์เชื่อมระหว่างกล้องกับคอมพิวเตอร์เพื่อแสดงผลวิดีโอได้แบบทันที และอุปกรณ์ตัวนี้จะสามารถใช้งานได้กับกล้องที่มีพอร์ต HDMI หรือ Mini HDMI โดยเราสามารถเชื่อมเข้ากับโปรแกรมไลฟ์ต่าง ๆ ได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมยอดฮิตอย่าง OBS Studio, Xsplit และ vMix ซึ่งต้องบอกเลยว่าอุปกรณ์ชนิดนี้มีหลายราคา ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ต้องขอแนะนำเลยว่าอย่าเห็นแก่ขอถูก! เพราะผลลัพธ์ที่ได้มาอาจจะไม่คุ้มค่าซะเท่าไหร่ อาจทำให้สีภาพของเราผิดเพี้ยน หรือ แม้แต่ไม่มีความเสถียรเลยก็ได้
อุปกรณ์เหล่านี้เราจะแยกออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน อย่างใครที่ใช้กล้องตัวเดียวเราจะก็มีอุปกรณ์เชื่อมต่อที่เรียกว่า HDMI Capture Card (Advanced Photo Systems HDMI To USB 3.0 Converter V2 และ Atomos Connect 4K HDMI Capture) หรือ ถ้าใครมีใช้กล้องตัวหลาย เราก็ต้องหาอุปกรณ์ที่จะมาซัพพอร์ตในการตัดสลับกล้องอย่างตัว Switcher ที่มีให้คุณเชื่อมต่อได้สูงถึง 4 กล้องเลยทีเดียว
กล้องต้องชัด ภาพต้องดี มี Clean HDMI
เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ไลฟ์สดกันผ่านกล้องทั้งนั้น แต่เราจะเลือกกล้องแบบไหนที่เหมาะกับไล์ฟสดล่ะ? สิ่งแรกที่เราต้องหาหาคุณสมบัติในตัวกล้องที่จะเอามาไลฟ์สดเลยก็คือ จะต้องเป็นกล้องที่มีฟังก์ชั่น Clean HDMI เท่านั้น!! เพราะถ้าเราไลฟ์ผ่านกล้องที่ไม่มีฟังก์ชั่นนี้บอกเลยว่าหน้าจอของคุณจะรกและถูกบังเฟรมไปด้วยตัวหนังสือมากมายที่อยู่บนของกล้อง
และอีกสิ่งที่เราต้องดูนั่นก็คือความคมชัด สำหรับกล้องสมัยนี้เรื่องความคมชัดหายห่วงอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่ก็จะรองรับการถ่ายที่ 4K ทั้งนั้น แต่ในการไลฟ์สดแนะนำให้ตั้งค่าที่ 1080p ก็เพียงพอแล้ว เนื่องจาก Social Media แต่ละแพลตฟอร์มนั้นรองรับการไลฟ์สดแค่ 1080p เท่านั้น และถ้าใครที่อยากไลฟ์สดนาน ๆ อย่างพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ก็แนะนำให้หา Adapter ชาร์จตรงเข้ากล้อง แค่นี้เราก็สามารถไลฟ์ได้ยาวนาน ไม่มีปัญหาเรื่องแบตหมดอีกต่อไป
นอกจากนี้เรื่องโฟกัสก็สำคัญ แนะนำให้ตั้งค่ากล้องไว้เป็น Auto Focus เพราะไม่ว่าเราจะขยับไปทางไหนกล้องก็จะยังโฟกัสอยู่ที่เรา และถ้าใครอยากให้ภาพเกิดมิติเป็น Depth of Field ก็แนะนำให้ใช้เลนส์ที่มีค่ารูรับแสงกว้าง ๆ และสังเกตว่าชอบนั่งระยะไหน ให้ซื้อเลนส์ช่วงนั้นไว้ติดตัว แค่นี้ก็ทำให้คลิปของเราดูน่าสนใจขึ้นแล้ว!
เสียงดี ฟังชัด เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
นอกจากภาพจะต้องชัดแล้ว เสียงที่เราส่งออกไปก็ต้องดี และเดี๋ยวนี้ไมโครโฟนที่วางขายกันก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นไมค์ตั้งโต๊ะ หรือ ไมค์ไวเลส เราก็ควรที่จะเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน อย่างสายพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องนี่เลย “ไมค์ไวเลส” ติดตัว ที่ไม่ว่าคุณจะเดินไปหยิบของ หรือ เดินมาโชว์สินค้าหน้ากล้อง เสียงก็ยังชัดอยู่ตลอดเวลา และ สำหรับสายสตรีมเกม หรือ สาย Content ไลฟ์สด ที่นั่งพูด ก็ต้องเป็น “ไมค์ตั้งโต๊ะ” ที่ช่วยให้เสียงของคุณชัดเจน และไมค์ตั้งโต๊ะนี้ก็ยังมีฟังก์ชั่นให้คุณเลือกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับเสียงว่าจะให้เก็บทั้งหมด, เลือกรับเฉพาะเสียงด้านหน้า (ตัวคนพูด) หรือ เก็บเสียงทั้งด้านหน้าและด้านข้าง เป็นต้น ฟังก์ชั่นเหล่านี้ก็จะทำให้ไลฟ์สดของคุณมีเสียงที่ฟังชัด และ ดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
ภาพสวยแบบมืออาชีพ แค่จัดแสงในบ้านให้สวย
ปฏิเสธไม่ได้เลยสิ่งที่ทำให้ไลฟ์สดของเราดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือแสง!! เราก็ต้องหาช่วยตัวอย่างชุดไฟเข้ามาช่วยให้ไลฟ์ของเราดูสว่างมากยิ่งขึ้น และถ้าใครอยากได้ไลฟ์สวย ๆ ก็แนะนำให้ลองจัดไฟกันดู ซึ่งการจัดไฟนี่ก็มีหลายแบบมาก ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับมือใหม่ เราอาจจะลองตั้งไฟให้เฉียง 45 องศา แล้วปรับแสง Soft Light ดู ก็ช่วยให้ใบหน้าของเรามีมิติ หรือ เราจะลองตั้งไฟไว้ที่ด้านหลังให้ดูเป็น Rim Light ก็จะช่วยให้ตัวเราเองดูเด่นขึ้นมาได้นะ!
รับชม Live สดย้อนหลัง หัวข้อ ‘Home Studio Live Streaming’
สำหรับท่านที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม Workshop มาร่วมเปิดประสบการณ์การถ่ายภาพ กับทาง BIG Camera Exclusíf เซ็นทรัลเวิลด์ สามารถติดตามรายละเอียดในครั้งถัดไปได้ที่เพจ BIG Camera รับจำนวนจำกัด! แล้วการถ่ายภาพของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป