เตรียมพร้อมสู่การเป็น Youtuber สายท่องเที่ยว
ครีเอทวิดีโอท่องเที่ยวเจ๋ง ๆ สู่การเป็น Youtuber สายท่องเที่ยว! จะเห็นได้ว่าในยุคนี้หลายคนดัง และมีชื่อเสียง จนกลายเป็น Youtuber ได้ เพราะการทำคอนเทนต์ลงบนโซเชียลมีเดียในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพราะตัววิดีโอเองสามารถเล่าเรื่องให้เห็นถึงแอคชั่นต่าง ๆ ได้ลึกกว่าภาพ ทำให้แต่ละวิดีโอต้องมีดีเทลมากมาย ไปเช็คลิสต์พร้อมกันเลยว่า กว่าจะปังต้องทำอะไรบ้าง!
เริ่มจากการแพลน
เชื่อว่าหลาย ๆ คน ก่อนจะไปถ่ายจริง ต้องกำหนดและวางแพลนก่อน เพื่อให้รู้จุดประสงค์จริง ๆ ของงานที่กำลังจะทำ ว่าต้องการนำเสนออะไร?
ยิ่งเป็นวิดีโอท่องเที่ยวแล้ว จะต้องวางไทม์ไลน์ไว้เป็นอย่างดีเลย เพราะการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง จะต้องมีการวางแพลน เพื่อที่จะไปถึงจุดไฮท์ไลท์หรือการเช็คพ้อยท์แต่ละที่ เพราะสิ่งนี้จะทำให้วิดีโอน่าสนใจและแตกต่างจากของคนอื่น ๆ
อย่างการทำวิดีโอท่องเที่ยวก็มีหลากหลายแบบ ทั้งเป็นแบบถ่ายสถานที่ท่องเที่ยว เล่าเรื่องแบบ filmmaker ถ่ายฟุตสวย ๆ เอามาร้อยเรื่องราวโดยไม่ต้องมีการพูดบรรยายก็ได้ การเล่าเรื่องแบบนี้จะต้องมีฟุตที่สวย และน่าสนใจจริง ๆ ดังนั้นแพลนการวางไทม์ไลน์ว่าจะไปที่ไหนก่อนสำคัญมาก เพื่อเราจะได้ตามเก็บฟุตสวย ๆ ได้ตามแพลนที่กำหนดไว้
หรือจะเป็น VLOG การถ่ายทำและมุมมองก็ต่างจากการถ่ายเพื่อเอาฟุตสวย ๆ มาเล่าเรื่อง ในส่วนของ Vlog จะต้องมีการเขียนสคริปต์ว่าจะต้องพูดอะไรบ้าง ไปสถานที่ไหนต้องเล่าเรื่องอะไรบ้าง อาจจะเป็นการศึกษาประวัติหรือที่มาของสถานที่นั้น ๆ เพื่อให้มีเรื่องเล่า ซึ่งในส่วนของการทำ Vlog การได้เก็บฟุตสวย ๆ ก็สำคัญมาก เพราะจะทำให้คนสนใจวิดีโอมากขึ้น ซึ่งถ้าเราวางแพลนมาดี ของทั้งส่วนของสคริปต์และการทำไทม์ไลน์ ก็จะทำให้ได้ทั้งฟุตสวย ๆ และการเล่าเรืองที่น่าสนใจ
Cr. Tony Schnagl
จะเห็นได้ว่าแต่ละแบบจะมีการแพลนก่อนถ่ายไม่เหมือนกัน แนะนำว่าควรมีการแพลน เพื่อให้การทำงานลื่นไหล ไม่เสียเวลา ทำงานได้เป็นไปตามขั้นตอน และทำให้ความคิดไม่กระจายระหว่างถ่ายทำด้วย
เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม
เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งานจริง ๆ อาจจะมีการพกอุปกรณ์เสริมบ้าง แต่ไม่ควรจะเยอะเกินไป เพราะจะทำให้การทำงานลำบาก ในการที่เราต้องคอยดูแลของมากเกินไป ก็อาจจะทำให้พลาดช็อตสำคัญไปได้
- กล้อง
ยิ่งเทคโนโลยีในทุกวันนี้ก้าวหน้าไปมาก ทุก ๆ อย่างก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ก้าวทัน ในเรื่องวิดีโอก็ตามไปติด ๆ เรื่องความคมชัดในแพลตฟอร์ม ก็พัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชม จะสังเกตได้ว่ายิ่งวิดีโอที่มีปกขึ้นว่า 4K, 8K คนจะเข้าไปดูเยอะ
คุณภาพความคมชัดของวิดีโอเลยเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจเลือกดู ดังนั้นการถ่ายวิดีโอแบบ Youtuber แน่นอนว่าต้องใช้กล้อง เพื่อให้ได้คุณภาพของวิดีโอที่ดี แต่จะเป็นกล้องไทป์ไหน สเปคยังไง ก็จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับงานของแต่ละคน
สำหรับงานวิดีโอแบบ Filmmaker ที่นิยมเอาฟุตสวย ๆ มาร้อยเข้าด้วยกัน จะเป็นกล้องระดับกลาง - โปร แนะนำกล้องที่รองรับการถ่าย 4K ได้ รองรับไฟล์ RAW ให้การติตามหรือโฟกัสดี และมี F-LOG เพราะจะง่ายต่อการเอาไปย้อมสีวิดีโอ
Tips: การได้ฟุตสวย ๆ นอกจากวิวสวย มุมภาพได้แล้ว มุมเม้นท์ของกล้องจะต้องได้ด้วย แนะนำให้ขาตั้งกล้อง หรือกิมบอล เพื่อช่วยลดการสั่นไหว
และสำหรับ Youtuber สายท่องเที่ยวแบบการถ่ายทำ Vlog กล้องที่ส่วนใหญ่ใช้ จะมีทั้ง Action Camera, Compact และ Mirrorless ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน สามารถเข้าไปดูได้ที่ การเลือกกล้องให้เหมาะกับงานวิดีโอ ส่วนสเปคจะต้องเลือกกล้องที่สามารถรองรับการบันทึกวิดีโอ full hd, 4K หรือมากกว่านั้น แต่ต้องดูด้วยว่าคอมที่ใช้ตัดต่อรองรับไฟล์ถึงระดับเท่าไหร่ นอกจากนี้ต้องเลือกใช้กล้องที่มีระบบกันสั่นในตัว มีการโฟกัสติดตามที่เร็วและแม่นยำ
Tips: แนะนำสำหรับการถือถ่าย Vlog เอง ควรจะมีขาตั้ง Tripod อันเล็กติดกับกล้องไว้ เพื่อลดการสั่นไหวของภาพในตอนที่ขยับตัว หรือเดิน
- ใช้โดรนเพื่อได้ฟุตเทจมุมมองใหม่
Cr. Joseph Redfield
การใช้โดรน แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า Youtuber สายท่องเที่ยวหลายคนจะพกโดนไปด้วย เอาไปเก็บฟุตมุมมองใหม่ ๆ มาใส่ในวิดีโอ เพื่อทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจกับวิดีโอและทำให้วิดีโอน่าสนใจมากขึ้น สำหรับใครที่สนใจอยากได้ภาพมุมสูงมุมใหม่แบบนี้ สามารถเข้าไปดูไอเดียการถ่ายได้ที่ 5 ฟุตเทจจากโดรน (Drone) ที่ควรต้องลอง
- ระยะเลนส์และมุมกล้อง
มุมกล้องหรือมุมมองของเลนส์ที่แตกต่างกัน จะช่วยให้เสริมการเล่าเรื่องให้ดีขึ้น ระยะเลนส์ vlog ที่ควรใช้ จะอยู่ที่ 16-35mm จะทำให้ได้ภาพมุมกว้าง เวลา Vlog ก็จะมีที่ว่างเหลือที่สามารถเห็นสถานที่รอบ ๆ ตัวได้ดี
ได้ภาพมุมกว้าง เห็นฉากหลัง
หรือจะเป็นเลนส์ซูมในช่วงระยะนี้ก็ได้ เพื่อเล่าเรื่องได้ทั้งการใช้มุมแคบเพื่อเจาะรายละเอียด และใช้มุมกว้างเพื่อให้ดูภาพรวม การที่ใช้หลากหลายมุมมอง จะช่วยให้การเล่าเรื่อง และบรรยากาศของวิดีโอดูไม่น่าเบื่อ และทำให้คนดูสามารถดูจนจบได้
- ระบบเสียงต้องดี
นอกจากเรื่องภาพที่ต้องใส่ใจแล้ว เรื่องเสียงก็สำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งการ Vlog ที่ต้องใช้ทั้งภาพและเสียงแล้ว ถ้าอย่างใดอย่างนึงขาดหายไป หรือไม่ได้คุณภาพ ก็อาจจะทำให้คนไม่ดูต่อหรือเลิกสนใจวิดีโอไปเลย แต่ถ้าทั้งภาพและเสียงคมชัด ก็จะทำให้วิดีโอน่าติดตามมากยิ่งขึ้น
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเห็น Youtuber จะใช้ไมค์เสริม แล้วใช้เสียงจากตัวกล้องเลยไม่ได้เหรอ? แนะนำให้ต่อไมค์นอก เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดี เพราะกล้องบางรุ่นก็ไม่ได้ออกแบบเรื่องเสียงมาให้ครอบคลุมการใช้งานในแต่ละสถานการณ์ต่าง ๆ การใช้ไมค์เสริม ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเสียง จะช่วยให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีมากกว่า และสำหรับการทำ Vlog แนะนำให้ใช้ไมค์ไวเลส ที่สามารถติดไปที่เสื้อของผู้พูดได้เลย จะทำให้ไม่มีสายเกะกะเวลาทำงาน และสะดวกต่อการทำงาน
แนะนำไมค์ไวเลส
- Hollyland Lark M1
- Pre-Order Saramonic Blink500 Pro B8
- Saramonic SR-BTW
- Saramonic Blink500 Pro B2-O (Orange) Limited Edition
- Rode Wireless GO II (WIGO II) COMPACT WIRELESS MICROPHONE
- Rode Wireless GO (WIGO [COMPACT WIRELESS MICROPHONE])
- Rode Wireless GO White Edition
- Saramonic Blink500 Pro B2
- Saramonic Blink500 Pro B1
- ทริคสำหรับการถ่ายวิดีโอเพื่อลดการสั่นไหว
แน่นอนว่าการถ่ายวิดีโอ เมื่อเราขยับตัวจะทำให้เกิดการสั่นไหวขึ้นแน่นอน นอกจากจะมีขาตั้งอันเล็ก ๆ ติดตัวแล้ว สำหรับเทคนิคอื่น ๆ ที่จะช่วยให้กล้องสั่นไหวน้อยลง คือ ถ้าเป็นการนั่งถ่ายตัวเองนั่งพูดคุย แนะนำให้ปิดกันสั่น จะทำให้ได้ภาพที่กว้างขึ้น และสามารถเก็บบรรยากาศรอบข้างได้เยอะ
นอกจากจะตั้งกล้องนิ่ง ๆ แล้ว ถ้าอยากเก็บบรรยากาศได้เยอะขึ้น สามารถยืนหรือนั่งอยู่กับที่แล้วค่อย ๆ แพนกล้อง ให้เห็นสิ่งรอบตัวได้ การทำแบบนี้จะช่วยลดการสั่นไหว แต่สามารถเล่าเรื่องได้ว่าอยู่ที่ไหน และรอบข้างมีอะไรบ้าง ทำให้เห็นบรรยากาศโดยรวมได้
ลงมือถ่ายจริง
แน่นอนว่าสิ่งที่เตรียมด้านบน ก็เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการลงมือถ่ายจริง เมื่อแพลนมาดีแล้ว เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งานมาครบแล้ว สิ่งต่อไปคือการถ่ายทอดมุมมองผ่านกล้อง จะถ่ายยังไง มีลูกเล่นอะไรในการถ่ายบ้าง
เรียกได้ว่าการถ่ายวิดีโอ จะเป็นเอกลักษณ์ของคนถ่าย สำหรับใครที่ต้องการครีเอทมุมมองใหม่ ๆ อยากมูฟกล้องมากกว่าที่เคยทำ สามารถเข้าไปดูได้ในบทความ ครีเอทวิดีโอสุดเจ๋ง กับ Gimbal Movement จะทำให้วิดีโอแตกต่าง เล่าเรื่องได้ และน่าสนใจมากกว่าเดิม นอกจากนี้ถ้าอยากได้ไอเดียสำหรับการเชื่อมซีนแต่ละซีน ก็เข้าไปดูได้ที่ 5 Camera Movement ในวิดีโอ
สำหรับใครที่ต้องการครีเอทวิดีโอเป็นของตัวเอง อยากเล่าเรื่องการท่องเที่ยว อย่าลืมนำข้อมูลและไอเดียการเริ่มต้นถ่ายวิดีโอนี้ไปปรับใช้ เชื่อว่าในอนาคตจะได้เห็น Youtuber หน้าใหม่เกิดขึ้นมากมายแน่นอน!
